สวัสดีท่านผู้อ่านที่น่ารักทุ กท่าน ก่อนอื่นแอดมินและทีมงานเพจเกษตรผสมผสานก็ขอขอบคุณที่ท่านผู้อ่านยังคงติดตามผลงานของเราตลอดมา ทางทีมจะคอยนำเสนอเรื่องราวดีๆ ให้ความเพลิดเพลินใจและมีประโยชน์แก่แฟนเพจ ฝากคำคมไว้เช่นเคยนะคะ ปริมาณของ “ความสุข” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของ “สิ่งดี ๆ” ที่เราได้รับ แต่อยู่ที่ “มุมมอง” ของเราที่มีต่อ “สิ่งเหล่านั้น” ต่างหาก
ภาพจำของการแต่งงานก็คือการเป็นคนที่อีกฝ่ายฝากชีวิตไว้ด้วยได้ แต่ความจริง..ไม่มีใครควรฝากชีวิต ฝากความสุขของตัวเองไว้กับคนอื่น คนทุกคนควรพึ่งwาตัวเอง ช่วยตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่เอาแต่หวังพึ่งคนอื่นไปหมดทุกเรื่อง แม้แต่คนที่เป็นสามี-ภรรย ากันก็ตาม
จริงอยู่ความรักทำให้คนสองคนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน แต่ความรักไม่ใช่การเอาชีวิตฝากไว้ที่อีกคน ไม่ใช่การโยนทุกสิ่งทุกอย่างให้อีกคนรับผิดชอบโดยไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำ ถ้าแบบนั้น..ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการหาใครสักคนมารับผิดชอบปัญหาที่มันเกิดขึ้นมากกว่า
ฝ่ายชายมี เ งิ น หนึ่งแสนห้าหมื่น ฝ่ายหญิงมี เ งิ น หนึ่งแสน ก่อนที่จะแต่งงาน ฝ่ายชายนำ เ งิ น หนึ่งแสนห้าหมื่น ไปดาวน์บ้าน ฝ่ายหญิงนำ เ งิ น หนึ่งแสนไปตกแต่งบ้านและซื้อเครื่องใช้ต่างๆ หลังแต่งงาน ฝ่ายชายผ่อนส่งค่างวดบ้าน สามพันหยวนทุกเดือน เ งิ น เดือนคงเหลือหนึ่งพันหยวน ฝ่ายหญิง เ งิ น เดือนเดือนละสามพันหยวน ชายหญิงทั้งสองใช้ร่วมกัน สามปีต่อมา ฝ่ายหญิงตั้งครรค์ จ า กนั้นคลอดลูกออกมา ฝ่ายชายได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน
เ งิ น เดือนเพิ่มเป็นเจ็ดพันหยวน ย ามนี้ เด็กต้องการคนดูแล หากจ้างพี่เลี้ยง ต้องจ่ายเดือนละสองพันหยวน ชายและหญิงทั้งสอง ปรึกษาหารือกัน ตกลงตัดสินใจ ให้ฝ่ายหญิงลาออกจ า กงาน เพื่ออยู่ดูแลลูก เช่นนี้แล้ว
ฝ่ายหญิงจึงกลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว สิบปีต่อมา ฝ่ายชายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน รัศมีเปล่งปลั่ง ฝ่ายหญิงคลุกคลีอยู่กับลูก สามี บ้าน ทุกๆวัน ราศีหม่นหม อง ย ามนี้ ฝ่ายชายรู้สึกว่า ภรรย าตนไม่สามารถพาเข้าสังคมอีกแล้ว
สิ่งยั่วยวนภายนอกก็ ช่างร้อนแรงเย้ายวนใจ สุดท้ายเลยมีภรรย าน้อยหลังจ า กภรรย ารู้เรื่องเข้า ทะเลาะ วิวาท สุดท้าย เศร้าเสียใจ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเตรียมตัวหย่ า ตามคำอธิบ าย ในตัวบท ก ฎ ห ม า ย ว่าด้วยการสมรส “บ้าน”
ฝ่ายชายได้ซื้อก่อนแต่งงานฝ่ายหญิงไม่มีสิทธิ์ ฝ่ายหญิงไม่ยอม บอกว่า “พวกเราทั้งสองช่วยกันผ่อนค่างวด” ทนายถามว่า “เธอมีหลักฐานที่ร่วมกันผ่อนส่งค่างวดหรือไม่?”
ฝ่ายหญิงตอบว่า “ไม่มี ทุกเดือนจะหักจ า กบัญชี เ งิ น เดือนของฝ่ายชายโดยตรง” ฝ่ายหญิงบอกอีกว่า “ลูก..ฉันเป็นคนคลอดเอง ฉันเลี้ยงดูจ นเติบใหญ่มากับมือ ลูกต้องตกเป็นของฉัน” ทนายพูดว่า “ลูก..จะตกเป็นของใคร เราจะดูว่า ใครมีความสามารถที่จะเอื้อประโยชน์ให้แก่เด็กมากที่สุด เธอ..ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ไม่มีบ้าน ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ทางศาลจะตั ดสิ นให้ต กเป็นของฝ่ายชาย”
ย ามนี้ ฝ่ายหญิง..ไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ไม่มี เ งิ น ไม่มีลูก เธอสิ้นหวังแล้ว โลกของเธอล่มสลายไปแล้ว ส่วนฝ่ายชาย เริ่มต้นชีวิตใหม่ของของเข าฝ่ายหญิงเธอยังกล้าที่จะนำเอาความสุขของทั้งชีวิต ฝากฝั งไว้กับคนอื่นอีกหรือไม่ ?
บนโลกใบนี้ ไม่มีใครให้คุณพึ่งพิงได้ตลอดชีวิต แม้แต่เงาของเธอเอง ก็จะห่างหายไปจ า กเธอ ในความมืดใช่แล้วแรกเริ่ม ฝ่ายชายรักเธอมาก แต่ฝ่ายหญิงโดยส่วนมากแล้ว มักจะละเลยสิ่งสำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ “คน”
ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ล้วนที่จะแปรเปลี่ยนไป ได้ทุกเมื่อทุกเวลา ฝ่ายหญิงที่มีอาชีพ มีความอิสระของตนเอง จึงจะดำรงชีวิตได้ตามแบบฉบับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง จึงสามารถสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิตคู่เwราะทุกๆคนล้วนชื่นชอบชื่นชมสิ่งสวยๆงามๆ ใครจะยอมทนอยู่กับคนที่ไม่แต่งหน้าแต่งตัว ไม่พัฒนาตนเอง เกียจคร้าน อีกทั้งเป็นฝ่ายหญิง ที่เสื่ อมโท ร มแล้ว
ได้ทุกวันฝ่ายหญิงเอ๋ยดีกับตัวเอง ทะนุถนอมตัวเองให้มากหน่อยเถิด “ต้องสูงส่งถึงจะล้ำค่า” คิดอย ากจะเป็นฝ่ายหญิงที่แกร่ง รูปลักษณ์ของฝ่ายหญิงเอง เป็นตัวตัดสินกำหนดว่า “สำเร็จหรือล้มเหลว”
การไม่ฝากชีวิตไว้ที่ใคร ไม่ได้หมายความว่าพอมีปัญห า มีเรื่องเดือ ดร้อน เราต้องจัดการด้วยตัวคนเดียวหรือพึ่งพาตัวเองเสมอไป ข้อดีของความรักมันอยู่ที่ตรงนี้ ตรงที่เวลาเจอปัญหา เรายังมีอีกคนคอยอยู่ข้าง ๆ คอยปรึกษา คอยห่วงใย ให้กำลังใจ จับมือกันแน่น ๆ
แล้วผ่านความย ากลำบ ากไปด้วยกัน ดังนั้นมีความรักแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฝากชีวิตไว้ที่คนรัก เwราะนี่คือ 6 เหตุผลที่ทำให้รู้ว่าคนเราไม่ควรจะฝากชีวิตไว้ที่ใครทั้งนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นพุทธwจน์ที่บอกให้คนเราเพียรพย าย ามทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง ให้เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น ในขณะที่ธรรมชาติของคน เวลามีความรักก็มักจะอย ากพึ่งwาคนรัก
อย ากให้คนรักช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราพึ่งพาเค้ามาก ๆ จ นไม่ได้พึ่งwาตัวเองเลย ก็เหมือนกับการฝากทั้งชีวิตและจิตใจไว้ที่อีกคน สุดท้ายเราจะลืมว่าวิธีการพึ่งwาตัวเอง และอยู่ไม่ได้ถ้าปราศจ า กอีกคน
การมีความรักไม่ได้แปลว่าเราต้องพึ่งพาคนที่เรารัก เพราะแม้กระทั่งคนรักกันก็รับประกันไม่ได้ว่าเค้าจะอยู่กับเราไปตลอด การที่ต่างคนต่างพึ่งพาตัวเองให้ได้ ก็เป็นการลดปัญหาในการใช้ชีวิตไปส่วนหนึ่ง ยังไงสุดท้ายแล้วคนที่พึ่งพาและฝากชีวิตไว้ได้ก็มีแค่ตัวเราเองเท่านั้น
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ เรียบเรียงโดย เพจเกษตรผสมผสาน