สวัสดีครับวันนี้แอดมินมีเรื่องราวดีๆที่น้อยคนนักที่จะอุทิศตนเพื่อสังคมเหมือนกับผู้กองท่านนี้ และหลายๆคนเคยได้ยินเรื่องราวจากเพจ บ้านสร้างฝัน ผ่านตามาบ้างแล้ว วันนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักผู้กองมิ้น ผู้ก่อตั้งบ้านสร้างฝันนี้มาเพื่อเด็กๆที่อยากจนไมมีโอกาศได้เรียนหนังสือ
สำหรับประวัติ “ร.ต.อ.อภิชิต” ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นอดีต “ผู้กองมิ้น” หลังขอลาจากวงการตำรวจเพื่อเดินหน้าควักเงินเช่าตึกสร้างศิษย์ เป็นครูไร้เงินเดือนสอนฟรีเด็กยากจน โดยก่อนหน้านี้นั้น “ผู้กองมิ้น” เป็นอดีต ร.ต.อ.อภิชิต ภัณฑะประทีป รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระหว่างรับราชการมาเช่าอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ถนนอินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เปิดสอนหนังสือให้แก่เด็กนักเรียนที่ยากจนฟรี ในเวลานอกราชการ
ผู้กองมิ้นเปิดสอนเด็กตั้งแต่ชั้น ม.1-ม.6 เมื่อปี 2560 ซึ่งเปิดสอนทุกวัน และในช่วงปิดเทอมจะจัดเป็นคอร์สติวแบบนอนประจำระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง โดยแยกห้องชาย-หญิง และไป-กลับได้ ตามที่ผู้ปกครองสะดวกซึ่งกิจกรรมก็จะมีการติวหนังสือปกติ มีกิจกรรมสันทนาการเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการติวหนังสือบ้าง และพาเด็กๆ ไปว่ายน้ำ อีกทั้งยังจัดกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ และออกกำลังกายทั่วไป โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ

ความดีที่ผู้กองมิ้นทำทำให้สื่อโลกออนไลน์รับรู้และต่างแชร์เรื่องราวของผู้กองหนุ่มท่านนนี้ออกไป และต่างพูดชื่นชมไปในทิศทางเดียวกันในการเสียสละและทำดีเพื่อสังคม ตลอดที่ผ่านมาก็มีผู้มีจิตอาสาช่วยสนับสนุนเป็นอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์ว่ายน้ำช่วยเหลือเด็ก
รวมถึงมีครูจากที่อื่นอาสาเข้ามาช่วยสอนในบางครั้ง สำหรับวัตถุประสงค์ คือ ต้องการสร้างโอกาสให้เด็กมีความรู้นำไปพัฒนาตนเอง และมีอนาคตที่ดี และเป็นกำลังหลักที่สำคัญในการประเทศต่อไปในอนาคต ซึ่งสิ่งที่ผู้กองคนเก่งทำไปนั่นต้องการแค่นี้จริงๆ

สอนไปได้สักพัก ผู้กองก็ต้องกลับมาทบทวน เพราะเวลาที่มีให้กับเด็กๆต้องแรกมากับเวลาที่เร่งรีบและมีจำกัดจนในที่สุด ร.ต.อ.อภิชิต ภัณฑะประทีป จึงได้ลาออกจากราชการ เพื่อมาช่วงเหลือเด็กๆได้เต็มที่ ในขณะที่หลายคนๆต่างก็เสียดายที่ผู้กองลาออกจากราชการ และถามว่าทำไมผู้กองถึงตัดสินใจลาออก ร.ต.อ.อภิชิตกล่าวว่า “จริงๆ ผมไม่เสียดายเลย
เพราะสิ่งที่โรงเรียนเตรียมนายร้อยตำรวจ นายร้อยทหาร สอนมากกว่าความรู้ คือ การเสียสละ ซึ่งการเสียสละของข้าราชการทหาร ตำรวจ ผมคิดว่าเป็นสิ่งประชาชนต้องการมากที่สุดเพราะฉะนั้น ผมกำลังทำในสิ่งที่โรงเรียนได้สอนมา ผมก็เลยไม่รู้สึกว่าการตัดสินใจลาออกจะเป็นการทำในสิ่งที่ผิด

เพราะเราต้องการทำเพื่อสังคมไม่ว่าเราจะยืนอยู่ตรงจุดไหนเราก็สามารถช่วยเหลือสังคมได้ เพราะชีวิตเด็กทุกคนเค้ามีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กยากจน หรือเด็กที่ไม่ยากจน”ถึงแม้จะมีคำถามว่าการติวหนังสือเด็กเพียงไม่กี่คนจะสามารถแก้ไขปัญหาปัญหาสังคมได้อย่างไร ก็คือผมไม่ได้มองว่าเราจะต้องเปลี่ยนแปลงสังคมแค่ภายในระยะเวลา 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปี แต่เราวางแผนระยะยาว
ต่อให้ต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน 20 ปี 30 ปี หรือ 50 ปี เราก็ต้องทำ ทุกอย่างนั้นมีจุดเริ่มต้น เพราะไม่มีใครสามารถจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี และที่ผมยึดถือก็คือพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.๙ ว่าในสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป
การที่จะให้สังคมดีได้นั้นคือต้องสนับสนุนให้คนดีปกครองบ้านเมือง ดังนั้น ผมจึงพยายามสร้างเด็กที่ดีให้เขาไปทำตามความฝันของตัวเขาเอง หากตัวของเขามีอนาคตที่ดี เขาก็จะสามารถช่วยเหลือสังคมต่อ บางทีเราไม่ต้องสอนหรือบังคับให้เขาเป็นคนดี แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการสอนที่ดีคือการที่ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก”

ล่าสุด น้องฟิลม์ นสต.ธนภัทร เจริญรัมย์ ที่ผู้กองมิ้นรับมาตั้งแต่เริ่มเปิดบ้านสร้างฝัน สมัยที่ยังรับราชการตำรวจ ตอนนั้นน้องเป็นเด็กน้อยวัย 15 ปีธรรมดาๆคนหนึ่ง ตอนนี้น้องได้ใส่เครื่องแบบเป็นข้าราชการตำรวจแล้ว
ผู้กองมิ้นบอกว่า…ส่วนเราก้าวออกมายืนมองแบบสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกที่ภูมิใจมากๆ ไม่ผิดหวังกับการตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ของตัวเอง เชื่อมั่นว่ายังมีเด็กอีกหลายคนที่เป็นคนดีและรอโอกาสแบบนี้อยู่
ส่วนเส้นทางของหมึกดำยังไม่หมดแค่นี้นะครับ น้องยังคงมีความฝันที่จะเป็นนักเรียนเตรียมทหาร และทุกคนจะได้เห็นน้องสวมเครื่องแบบนักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนนายร้อยตำรวจแน่นอนครับ ผมจะพยายามช่วยน้องๆเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

สำหรับหลายคนที่ส่งส่งข้อความมาสอบถามในเพจ ผู้กองมิ้นต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตอบช้า เพราะผู้กองต้องดูแลเด็กๆในบ้านด้วย และเป็นแอดมินที่ตอบคำถามทุกคำถามได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะรู้รายละเอียดทุกอย่างภายในบ้าน และเราต้องคัดเลือกเด็กที่ตั้งใจจริงและมีพฤติกรรมที่ดี ถ้าเราไม่คัดเลือกเด็กก็จะเกิดผลกระทบกับเด็กส่วนรวม
เพราะฉะนั้นหลายท่านที่สอบถามคุณสมบัติเด็กหรือรายละเอียดอื่นๆ อันเนื่องด้วยท่านไม่เคยติดตามบ้านสร้างฝันมาก่อน ขอความกรุณาโทรมาสอบถามได้เลยนะครับ ยินดีรับสายทุกท่านอย่างมาก แต่เท่าที่ผมให้เบอร์โทรศัพท์ไป
หลายท่านก็ยังพิมพ์ถามคำถามมาอีกครับ บางอย่างผมตอบไม่ได้จริงๆครับ เพราะรายละเอียดเกี่ยวกับอนาคตของเด็กแต่ละคนค่อนข้างละเอียดอ่อน ผมจำเป็นต้องฟังรายละเอียดของเด็กและครอบครัวจากท่านก่อน จึงจะบอกได้ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือได้หรือไม่อย่างไร
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ : บ้านสร้างฝัน https://www.facebook.com/DreamMakerHouse/