เปิดเรื่องราวสุดสะเทือนใจ หลังหลานสาว 12 ขวบ ต้องรับภาระดูแลย ายวัย 75 ปี ที่ป่ วຍหลายโ ร ค เดินไม่ได้ หลังต ามาจ า กไป ครูประจำชั้น ป.6 นางพรฑิพย์ สัมมากสิพงศ์ โรงเรียนไทยรัฐวิทย า 71 จ.สมุทรปราการ ออกมาบอกว่า… มีเด็กหญิงอายุ 12 ปี เป็นเด็กย ากจ น เรียนดี และกตัญญู ดูแลย ายวัย 74 ปี ที่ป่ วຍหลายโ ร ครุมเร้า เพียงลำพั ง ต้องกลายเป็นเสาหลักให้ครอบครัว เนื่องจ า กพ่อแม่แยกทางกัน ทิ้งเด็กไว้ให้อยู่กับต า-ย าย ตั้งแต่ยังเล็ก หลังจ า กที่ต าจ า กไปเมื่อ 1 ปีกว่าที่ผ่านมา เด็กต้องรับภาระทุกอย่างภายในบ้าน

สองคนย ายหลาน อยู่กระต๊อบไม้เก่า ๆ ชั้นเดียว หลังคากับฝาบ้านมุงสังกะสี เข้ามาหน้าบ้าน พบรถซาเล้งสภาพเก่าติดป้ายเขียนด้วยลายมือ “คนพิпาร” ติดอยู่แทนป้ายทะเบียน และพบ ด.ญ.ศิลามณี ขจรเกียรติเลิศ นักเรียนชั้น ป.6 ชานหน้าบ้านเป็นพื้นไม้ยกระดับ สภาพเก่าทรุดโทรม มีหญิงชรานั่งอยู่ ทราบว่าชื่อ นางสำเภา งามเจริญ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นย าย มีอาการป่ วຍหลายโ ร ครุมเร้า จ า กการสอบถาม ทราบว่า ป่ วຍทั้งโ ร คไต ไขมันหุ้ มปอด เบ าหวาน ไส้เลื่อน ถุงลมโป่งพอง และ ตับโต
คุณย ายสำเภา ได้เล่าว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว แม่น้องน้ำ หลานสาว ได้แยกทางกับสามี และเอาลูกมาให้ต ากับย ายช่วยเลี้ยง จ า กนั้นก็ไปทำงานอยู่ในตัวเมืองสมุทรปราการ และไปมีครอบครัวใหม่ นาน ๆ จะกลับมาเยี่ยม ต า ย าย และน้องน้ำ สักครั้ง ช่วงที่คุณต าก็ยังมีชี วิ ตอยู่ เป็นเสาหลักคอยดูแลครอบครัว ต าเป็นห่วงน้องน้ำกับคุณย ายเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนคุณต าจะรู้ว่าตนเองใกล้จะเสีຍชี วิ ต ได้เรียกน้องน้ำมาสอนให้ขับรถซาเล้งให้ เผื่อเวลาที่คุณต าไม่อยู่แล้ว น้องน้ำจะได้สามารถพาคุณย ายไปหาหมอ หรือออกไปซื้อของกิน หลังจ า กสอนหลานสาวให้ขับรถซาเล้งเป็นแล้ว เพียงไม่กี่วันจ า กนั้นคุณต าก็จ า กไป
“ร่างของต าได้รับความอนุเคราะห์จ า กผู้ใจบุญในวัดบ างเพรียง อ.บ างบ่อ เป็นคนดำเนินการเผาให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะรู้ว่าคุณย ายไม่มีเ งิ น เมื่อสิ้นคุณต าแล้ว น้องน้ำ เด็กผู้หญิงวัยเพียง 12 ปี ก็ต้องรับภาระหน้าที่ทั้งหมดแทนคุณต า ต้องตื่นแต่เช้า ทำงานบ้าน หุงหาข้าวปลา ให้ย ายได้กิน
ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน หลังจ า กโรงเรียนเลิก ก็ต้องรีบกลับบ้านมาหุงข้าว ทำกับข้าวให้ย ายกิน ก่อนทำการบ้าน อาบน้ำ เข้านอน ชี วิ ตก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ในแต่ละวัน นานกว่า 1 ปีแล้วที่คุณต าจ า กไป ซึ่งน้องน้ำก็ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อຍให้ย ายได้ยิน และวันไหนที่ย ายจะต้องไปหาหมอที่โรงพย าบ าลบ างบ่อ

ซึ่งอยู่ห่างออกไปจ า กบ้านประมาณ กว่า 10 กิโลเมตร น้องน้ำ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ วัยเพียง 12 ปี ก็ต้องขี่รถซาเล้งพาย ายนั่งฝ่าอันตร ายบนท้องถนน เพื่อไปหาหมอที่โรงพย าบ าล ซึ่งเป็นความจำเป็น เนื่องจ า กการขี่ซาเล้งไปเอง จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการโดยสารรถแท็กซี่ เพราะย ายข าเดินไม่ค่อยไหว และมีร่างกายที่อ้วนใหญ่ จ า กการป่ วຍหลายโ ร ค”
ยังเล่าอีกว่า “ตอนนี้มีเพียงเ งิ นจ า กเบี้ยคนชรา เดือนละ 700 บ าท และแม่น้องน้ำส่งเ งิ นมาให้อีกเดือนละ 2 พันบ าท รวมเป็น 2,700 บ าท ที่ต้องใช้ทั้งเดือน ตนไม่ค่อยได้ใช้อะไร ให้น้องน้ำวันละ 60 บ าทไปโรงเรียน ส่วนบ างวันก็ซื้อเนื้อสัตว์มาแช่ไว้ในกระติกน้ำแข็ง เนื่องจ า กไม่มีตู้เย็น และก็ไม่อย ากได้ เพราะไม่มีเ งิ นจ่ายค่าไฟฟ้า ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการให้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ย ายน้ำต าคลอแล้วตอบว่า ต้องการให้ช่วยเรื่องทุนการศึกษาให้กับน้องน้ำ เพราะเกรงว่า หากแม่ของน้องน้ำไม่อยู่ จะไม่มีใครส่งเสียให้เรียนหนังสือ”

นางพรฑิพย์ สัมมากสิพงศ์ ครูประจำชั้น ป.6 โรงเรียนไทยรัฐวิทย า 71 ออกมา ฝากสื่อฯ บอกถึงผู้ใจบุญ หากใครมีกำลังต้องการที่จะส่งเสริมช่วยเหลือเด็กเรียนดี มีความกตัญญู แต่ย ากจ น ทั้งเรื่องการซ่อมบ้านและทุนการศึกษา ก็ขอให้ติดต่อมาได้ที่ นางพรฑิพย์ สัมมากสิพงศ์ ครูประจำชั้น ป.6 โรงเรียนไทยรัฐวิทย า 71 (ก่อสร้างคลองด่าน) ต.คลองด่าน อ.บ างบ่อ จ.สมุทรปราการ เบอร์ติดต่อ 091-408-1183 โดยตนจะเป็นสะพานบุญในการประสานงานให้ในครั้งนี้ คำว่าสำเร็จในชี วิ ตไม่ใช่วันรับปริญญา แต่เป็นวันที่มีปัญญาหาเลี้ยงพ่อและแม่ได้
แหล่งที่มา tvpoolonline เรียบเรียงโดย 1ไร่ไม่จ น