เกษตรกรชาวนครพนม เจอวิ ก ฤ ติช่วงนี้ ค่าจ้ างดำนาแพงกว่าวันละ 400 บาท หันใช้วิธีเอาแรงงานแลกแรงงาน ล้นต้นทุนค่าจ้ าง นำวิถีชีวิตดั้งเดิมภูมิปัญญาท้องถิ่นลงแขกดำนา แก้วิก ฤ ติ ลดต้นทุน แบกภาระทั้งค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ยแพง แต่ราคาข้างต ก ต่ำ บางรายหันทำนาหว่าน แต่ผลผลิตไม่ค้ำค่าเท่านาดำ ต้องยอมแบ ก ภาระต้นทุนเพราะต กงาน
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้สถานการณ์ช่วงนี้ ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ทั้งผลผลิตราคาต กต่ำ แต่ต้นทุนสูง ทั้งค่าแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ย โดยเฉพาะในช่วงนี้เกษตรกรทำนาปี กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าจ้ างแรงงานสูง ในการทำนา ซึ่งปัจจุบันมีค่าจ้ างปักดำเฉลี่ยวันละ 400 บาท ต่อคน เนื่องจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่
รวมถึงผลผลกระทบ แรงงานต่างถิ่นไม่สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ ทำให้แรงงานรับจ้ างทำนามีการปรับขึ้นราคา ส่งผลกระทบต้นทุนการทำนา ทำให้บางร ายต้องหันไปทำนาหว่านแทน แต่มีปั ญห าเรื่องผลผลิตได้น้อยกว่านาดำ จึงต้องยอมทำนาดำแทนนาหว่าน โดยเกษตรกรต้องแบ กภ าระต้นทุนหนักกว่าทุกปี แต่ต้องยอมทำนาตามฤดูกาล เนื่องจากไม่มีอาชีพอื่น บวกกับมีปั ญหาต ก ง านจากผลกระทบวิก ฤ ตินี้ ทำให้แรงงานกลับภูมิลำเนามาทำการเกษตรทำนาปี สร้างร ายได้ชดเชย

เช่นเดียวกันกับเกษตรกรนาปี ในพื้นที่ ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลทำนาปี แต่กำลังประส บปัญหาค่าจ้ างแรงงานปักดำนาสูง วันละประมาณ 400-500 บาท ทำให้แก้วิก ฤ ติด้วยการใช้วิถีภูมิปัญญาชาวบ้านดั้งเดิม ลงแ ข กดำนา หรือการเอาแรงงานแลกแรงงาน แทนการใช้เงินเป็นค่าจ้ าง เพื่อลดต้นทุน โดยจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปช่วยกันแกดำ แบบไม่มีค่าจ้ าง เป็นการแก้วิก ฤ ติค่าจ้ างแพง ลดต้นทุน ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาผลผลิตการเกษตรต กต่ำในช่วงนี้ เพราะต้องแบกภ าระต้นทุน บางร ายข าดทุนแต่ต้องยอมจำใจทำการเกษตร เพราะไม่มีอาชีพทางเลือก

ด้าน นางสาววิชุดา ขุนศรี อายุ 45 ปี ชาวบ้านบ้านโพนงาม ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปีนี้ในช่วงฤดูกาลทำนาปี ยอมรับว่าเจอวิก ฤ ติ ทั้งค่าจ้ างแรงงานแพง เพราะคนต กงานหันมาทำการเกษตรทำไร่ทำนามากขึ้น เพราะต กง าน ส่วนใหญ่จะทำนาดำมากกกกว่านาหว่าน เพราะผลผลิตจะได้สูงกว่านาหว่าน แต่ต้องจ้ างปักดำ ปัจจุบันมีค่าจ้ างแรงงานปักดำสูงวันละประมาณ 400-500 บาท ต่อวัน ทำให้ เกษตรกรชาวนาต้องแบกภาระต้นทุนสูง ทางออกคือชาวบ้านในพื้นที่ต้อง หันไปพึ่งการทำนาแบบดั้งเดิมคือแรง ง านแลกแรง ง านแทนค่าจ้ าง หรือชาวบ้านเรียกว่า นาวาน หรือการลงแ ข กดำนา เป็นการช่วยกันระหว่างคนในหมู่บ้าน ไม่มีค่าจ้ างแรงงาน หมุนเวียนดำนาช่วยกันจนแล้วเสร็จ เป็นการลดต้นทุน โดยไม่คิดค่าจ้ างใด ๆ ทั้งสิ้น

เมื่อเสร็จจากนาของเจ้านี้ ก็จะต้องออกไปช่วยอีกคน พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณมาช่วยเรา เราก็จะไปช่วยคุณ เพราะหากไม่ใช้วิธีการแบบนี้จะต้องแบกภาระต้นทุนสูง ทั้งค่าจ้ างแรงงาน ค่าน้ำมันรถไถนา แต่ผลผลิตกับต กต่ำต้องหาทางลดต้นทุน ที่สำคัญปีนี้เกษตรกรหันมาทำไร่ทำนามากขึ้น เพราะต กงาน ข าดร ายได้ จึงต้องใช้วิธีภูมิปัญญาชาวบ้านดั้งเดิมแก้วิก ฤ ติลดต้นทุน หาทางออกในการแบกภาระฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยดูแลแก้ไขเรื่องราคาผลผลิตต กต่ำ รวมถึงค่าปุ๋ยค่าน้ำมัน ยังแพง ทำให้เกษตรกรชาวนา ชาวสวน ต้องข าดทุน แต่ต้องจำยอมเพราะไม่มีอาชีพอื่น
ไม่ว่าวันนี้ คุณจะเจอเรื่องร้ ายๆ เข้ามาในชีวิตมากมายขนาดไหน จำไว้ว่าเมื่อมันเข้ามาได้มันก็ออกไปได้เหมือนกัน