ขอพรวัดพม่า ได้พบรักหนุ่มอินเดีย! บ้านหลังโต ‘ครูเงาะ รสสุคนธ์’ หลังแต่งครั้งที่ 2 ตอบชัดปมสามีเป็นเศรษฐีภารตะ

ครูสอนการแสดงชื่อดัง “ครูเงาะ รสสุคนธ์” ควงหวานใจหนุ่ม “โจอี้ ราชเทพ” เคลียร์ข่าวลือเป็นคู่รักพันล้าน และย้อนเล่าตำนานรักนี้สวรรค์สรรสร้าง

ผ่านทางรายการ ข่าวบอกว่าครูเงาะได้สามีรวยเป็นพันล้าน? ครูเงาะ : พอเราเห็นข่าวเราก็ตลกกันในบ้าน โจอี้เขาส่งมาให้ดู

นี่เราไปรวยมาจากไหน เศรษฐีภารตะเหรอ แต่นี่เกิดที่นี่ เป็นเจนแ4 เหมือนคนจีนที่มาเกิดที่นี่ แต่นี่เป็นคนอินเดียที่มาเกิดในเมืองไทย

ตอนแรกกะจะปล่อยผ่าน แต่เราคิดไปคิดมาว่าถ้าเราปล่อยผ่านคนจะดูยังไง อ่อ…ในที่สุดก็หาสามีรวยเหรอ ในวันที่เราคบกัน เราไม่รู้เลยว่าโจอี้มีหรือไม่มีอะไร

จริงๆโจอี้ไม่ได้เป็นคนร่ำรวยมาจากตระกูลอะไรก็แล้วแต่อยากให้ผู้หญิงดู หนูต้องนับถือตัวเอง เราต้องยืนบนขาของตัวเองให้ได้ทั้งคู่ แล้วเรามาอยู่ด้วยกันแล้วไปด้วยกัน

ในอดีตถึงจะเจอบทเรียนและความรักที่ผิดหวังมามากแค่ไหน แต่ ครูเงาะ ก็ไม่เคยหมดหวัง ถึงกับบินไปขอคู่ผู้ที่จะมารัก ถึงเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าไปครั้งนั้นได้เจอรักแท้สมดั่งใจหวัง

พอเวลาเราไหว้พระใช่ไหมคะ เราก็จะอธิษฐาน หากข้าพเจ้ามีคู่ขอให้คนคนนั้นมี ศีล ศรัทธา ปัญญา จาคะ ศีลเสมอข้าพเจ้า เป็นใครอยากได้คู่ต้องไปขอที่ชเวดากอง

เราก็บินกันไปทั้งออฟฟิศเลย พอดีแฟนปัจจุบันของเงาะนะคะ ณ วันนั้นเขามาจีบเราแต่ว่าเราก็ยังไม่ได้ชอบเขา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็เปิดใจคุยกับเขา

แต่พอดีเขาก็บินพาแม่ไปที่นี่เหมือนกัน โดยบังเอิญ เราก็ได้เจอกันเลยก็ตามว่าวันนี้ไปไหนยังไง แล้วคือ เราก็ไปเจอเขาที่นั่น คือ ชเวดากองใหญ่มาก

ตอนนั้นเงาะอยู่ที่พระประจำวันเกิด แล้วพอเราอธิษฐานเสร็จหันหลังกลับมาเจอแฟนยืนอยู่เลย คือ เป็นเรื่องบังเอิญมาก คือประตูทางเข้ามีอยู่เยอะมาก

แต่เขาขึ้นมาแล้วเขาก็เห็นเราเลย แล้วเขาก็ยืนรอเราอยู่ เราหันไปดูเจดีย์เลยค่ะ เจอแล้วเหรอคะ เร็วจังเลยค่ะ ทันใจมากๆเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็เปิดใจคุยกับเขา แต่เขาไม่ตรง จากสิ่งที่เราชอบเลย เขามาดีสุภาพเหลือเกิน จนเราแบบใช่ไหม แต่ในใจเราก็คิดว่าถ้ารูปแบบเก่ามันดี มันคงดีนานแล้วเนอะ

ไหนลองเปิดใจซิ ใช้สมองบางอย่างใช้ใจสิ่งเดียว คือ เราก็ถือศีลเหมือนเรา สนใจแบบเดียวกัน สนใจการพัฒนาตัวเองเหมือนกัน

แอดมินเพจเกษตรผสมผสานฝากคำคมไว้เช่นเคยนะคะ ปริมาณของ “ความสุข” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของ “สิ่งดี ๆ” ที่เราได้รับ แต่อยู่ที่ “มุมมอง” ของเราที่มีต่อ “สิ่งเหล่านั้น” ต่างหาก