ทำความรู้จัก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประวัติ การศึกษา ชีวิตส่วนตัว และเส้นทางการเมือง กว่าจะมายืน ณ จุดนี้
“ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นักธุรกิจหน้าตาดี ดีกรีนักเรียนนอก ตัดสินใจลงเล่นการเมืองกับพรรคการเมืองทางเลือกอย่าง “พรรคอนาคตใหม่” ที่เสี่ยเอกเป็นผู้ก่อตั้ง โดยเตรียมที่จะผลักดันนโยบาย “เกษตรก้าวหน้า”
แก้ปัญหาที่ดินทำกินและหนี้ รวมทั้งการปลดหนี้ให้เกษตรกร หากได้เป็นรัฐบาล วาดฝันเอาไว้ว่าจะเสนอปลดหนี้ให้เกษตรกรที่ไม่มีศักยภาพในการชำระหนี้ 4,000 ล้านบาท

ส่วนเกษตรกรที่มีศักยภาพจะเข้าสู่กระบวนการปรับหนี้สิน และจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
อาจมีคนอยากรู้มากกว่านี้ว่า “ทิม พิธา” นักการเมืองหน้าใหม่คนนี้เป็นใคร มาจากไหน ยิ่งนามสกุล “ลิ้มเจริญรัตน์” ก็ยิ่งใคร่รู้ว่าเป็นอะไรกับ “คนผมขาว” ในตำนานการเมืองไทย
“ทิม พิธา” เกิดวันที่ 5 ก.ย. 2524 เป็นบุตรชายของ “พงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กับ “ลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นพี่ชายของ “เทียน ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์”
เรียนมัธยมฯ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ก่อนไปใช้ชีวิตที่นิวซีแลนด์นานถึง 7 ปี กลับมาเรียนที่เมืองไทยจนจบปริญญาตรี สาขาการเงิน การธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อนศึกษาต่อและจบปริญญาโท คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และต่อด้วยบริหารธุรกิจ ที่เอ็มไอที สโลน สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

จุดเปลี่ยนชีวิตของพิธา เกิดจากบิดาที่เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด พร้อมกับหนี้สินนับร้อยล้านบาท จากธุรกิจน้ำมันรำข้าว เขาจึงตัดสินใจดรอปเรียนและกลับมาดูแลธุรกิจแทน
กระทั่งล้างหนี้สิน สร้างธุรกิจเติบโตมูลค่าเป็นพันล้านบาท ซึ่งเขาระบุว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และอันดับ 5 ของโลก
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง “ทิม พิธา” กับผู้เป็นอา “คนผมขาว” เสี่ยเฮง-ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจ
เพราะคนผมขาวคนนี้ จัดเป็นคนใกล้ชิดทักษิณ มาตั้งแต่ทำงานเอสซี แอสเสท และเด่นชัดมากขึ้นเมื่อทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี แทบจะเป็นเงาหิ้วกระเป๋า-ถือโทรศัพท์ตามติด
ข้าราชการที่ต่างๆ ต่างสะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อ “ผดุง” เพราะในเวลานั้นจัดว่า “ใหญ่คับฟ้า” ทักษิณอยากได้อะไร ผดุงจัดให้หมด รวมทั้งแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทักษิณอย่างออกนอกหน้า
สำหรับ “ทิม พิธา” แม้จะไม่เคยมีบทบาททางการเมืองมาก่อน แต่เขาเคยกล่าวว่า อยากเป็นนักการเมือง เพราะเบื่อข่าวที่หาว่าไทยสู้ประเทศอื่นไม่ได้ จึงอยากนำความรู้ที่ได้มาจากผู้นำระดับโลกมาพัฒนาประเทศ

สำหรับชีวิตส่วนตัว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยสมรสกับนักแสดงชื่อดัง “ต่าย” ชุติมา ทีปะนาถ เมื่อปี 2555 และหย่าร้างเมื่อปี 2561 มีบุตรสาว 1 คนคือ น้องพิพิม ลิ้มเจริญรัตน์
ประวัติทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ทิม มีชื่อจริงว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เกิดวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2523
ภูมิลำเนาเป็นคน กรุงเทพมหานคร
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ การเงิน การธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ
ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้ทุนการศึกษา International Student ของ Kennedy School of Government, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปริญญาโทใบที่สองจากคณะบริหารธุรกิจ Sloan, Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) ประเทศสหรัฐอเมริกา
เขาเผยว่าเขาไม่ใช่เด็ก เก่ง เด็กฉลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาเป็นคนเกเรมากในตอนเด็ก ทั้งมีเรื่องชกต่อย สูบบุหรี่ มีเรื่องมากมายจนทำให้พ่อของเขาต้องส่งไปเรียนหนังสือที่นิวซีแลนด์

จึงทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งต้องหาเงินใช้เองจากการทำงานพิเศษหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ ส่งนม ทำงานพาร์ทไทม์มากมาย จนทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองทั้งด้านความคิดได้อย่างดี
ทิม พิธา ยังบอกอีกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก นั้นการเรียนการศึกษาแทบจะไม่ต่างจากการเรียนในประเทศไทยเลย ส่วนสิ่งที่ต่างกกันก็คือ คุณภาพของนักศึกษาและคุณภาพการสอน
โดยครูที่นั่นจะเน้นการถามนักศึกษา ไม่ใช่พูดๆ ไปเรื่อยๆ ให้นักศึกษาจด จึงทำให้นักศึกษามีส่วนร่วมในห้องเรียนได้มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นนักเรียนที่เรียนดี และมีความสามารถมากๆ
โดยหลังจากนั้นเขาก็ศึกษาต่อที่ Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) ซึ่งเป็น มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมานานในเรื่องงานวิจัยและการศึกษาในสาขาเคมี ฟิสิกส์ และวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ ระดับโลก
หลังจากนั้น ทิม พิธา ได้เข้าสู่การเมืองด้วยการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคในลำดับที่ 4

และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกที่ลงรับเลือกตั้ง ผลงานทางด้านการเมืองของเขาเรียกว่าแสดงให้เห็นถึงทัศนคติความสามารถของเขาได้เป็นอย่่างดี
โดย การอภิปรายครั้งแรกในสภาของเขาเรื่องนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหา กระดุม 5 เม็ด ได้รับการตอบรับที่ดีจาก ประชาชน ผู้ชมผู้ฟังการประชุมสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงขนาดที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเอ่ยปากชื่นชม
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ในวันที่ 8 มีนาคม พิธาก็ได้ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกลร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อีก 54 คน โดยเขารับหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค
ขอบคุณที่มา Sanook/ เรียบเรียงโดยอมยิ้ม