ถ้าเลือกได้ น้ำที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ปลูกผักได้ดีที่สุดคือน้ำที่มี EC อยู่ระหว่าง 0.1-0.3 มิลลิซีเมนต์ pH อยู่ที่ประมาณ 6.5-8.5 น้ำที่จะมีคุณสมบัติข้างต้น เรามักพบคือ
1น้ำประปานครหลวงและน้ำประปาส่วนภูมิภาค หรือน้ำประปาที่ใช้น้ำหน้าดินมาทำน้ำประปา น้ำหน้าดินหมายถึง น้ำในบ่อ น้ำในแม่น้ำลำคลอง น้ำพวกนี้มาจากน้ำฝนที่ตกลงมา
2น้ำในบ่อที่ขุดเอาไว้เก็บน้ำฝนที่ตกลงมาตามที่ต่าง ปัจจุบันบางที่มีการปูผ้าใบไว้ในบ่อเพื่อกันน้ำซึมออกด้วย
3น้ำบ่อซึมที่อยู่ในเขตที่มีภูเขาหรือมอมีสภาพพื้นเป็นกรวดทรายหรือหินปูนน้ำที่ซึมเข้ามาในบ่อส่วนมากจะเป็นน้ำฝน
น้ำดังที่กล่าวมาแล้วนี้สามารถนำมาใช้ปลูกผักได้เลยโดยไม่ต้องมีการปรับปรุง
4น้ำบาดาลที่จะนำมาใช้ได้ควรมี EC 0.4 มิลลิซีเมนต์ ถ้าเกินไม่แนะนำให้นำมาใช้ในส่วนของ pH ถ้าสูงก็ไม่มีปัญหาเพราะเราสามารถทรีตน้ำโดยใช้กรดในตริกทำให้ pH ต่ำลงมาได้
5การทำน้ำ RO ถ้าเรามีน้ำที่ EC สูงกว่า 0.4 และก็มีโซเดียมสูงเกิน 30 ppm. ก็มีวิธีแก้วิธีเดียวคือการนำน้ำมาผ่านเครื่องทำน้ำ RO น้ำที่ผ่านเครื่องทำน้ำ RO มาจะมี EC อยู่ที่ 0
ซึ่งเมื่อก่อนเข้าใจกันว่าเป็นน้ำที่ดีที่สุดเหมาะแก่การใช้ปลูกผัก แต่จากการศึกษาของผมพบว่ามันไม่เป็นอย่างที่เข้าใจกัน เพราะการใช้น้ำ RO ร่วมกับปุ๋ยที่มีแอมโมเนียมบวกกับสภาพอากาศร้อนจะทำให้ผักรากเน่าได้ง่าย (จากข้อเขียนเรื่องการเลือกใช้ปุ๋ยให้เหมาะกันน้ำ EC สูงและ EC ต่ำ)
แต่เราก็มีวิธีแก้คือ ให้นำน้ำ RO ที่มี EC อยู่ที่ 0 มาผสมกับน้ำที่ใช้ทำน้ำ RO ที่มี EC สูง โดยใช้น้ำ ที่มี EC สูง เติมลงไปในน้ำ RO จนน้ำ RO มี EC เพิ่มขึ้นจาก 0 มาเป็น 0.2 จึงนำไปใช้ปลูกได้