1.การปลูกผักที่อุณหภูมิสูง
ถ้าเราใช้ปุ๋ยที่ไม่มีแอมโมเนียมปลูกผักในช่วงที่มีอากาศร้อนผัก ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับอาการรากเน่า เพราะปุ๋ยที่ไม่มีแอมโมเนียมเมื่อผักดูดปุ๋ยผักจะปล่อยด่างออกมา ซึ่งจะทำให้สารละลายมีสภาพเป็นด่างสารละลายที่มีสภาพเป็นด่าง
เชื้อสาเหตุโรคพืชจะไม่ชอบหรือเจริญได้ไม่ดี แต่ก็ต้องระวังเรื่องการปรับ pH ไม่ควรใส่กรดเข้มข้นหรือใส่เร็วเกินไปทำให้กรดลวกรากทำให้รากเน่า
และอุณหภูมิสารละลายไม่ควรสูงเกิน 32 องศาเซลเซียส เพราะถ้าเกินจะทำให้สารละลายมีออกซิเจนต่ำ เมื่อรากขาดออกซิเจนหรือได้ออกซิเจนไม่พอรากก็จะเน่า
แต่ถ้าเราใช้ปุ๋ยที่มีแอมโมเนียม เมื่อผักดูดปุ๋ยผักจะปล่อยกรดออกมาทำให้สารละลายมี pH ลดลงต่ำและถ้าน้ำที่ใช้ปลูกเป็นน้ำที่มี EC ต่ำด้วยแล้วก็จะยิ่งทำให้สารละลายมี pH ลดลงต่ำมากขึ้น
เมื่อบวกรวมกับช่วงที่ปลูกมีอุณหภูมิที่สูงก็จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดอาการรากเน่ามากขึ้น เพราะรากจะเน่าง่ายก็ต่อเมื่อสารละลายมีสภาพเป็นกรดที่อุณหภูมิสูงและเชื้อสาเหตุโรคพืชก็จะชอบ pH ต่ำๆ
2.การปลูกผักที่อุณหภูมิต่ำ
การปลูกผักในช่วงที่มีอากาศเย็นผักจะไม่ค่อยมีปัญหาในทุกๆแเรื่อง ถ้าเราใช้ปุ๋ยที่ไม่มีแอมโมเนียมในการปลูกผักในหน้าหนาวผักจะโตได้ดี
และเมื่อผักโตได้ดีผักก็จะดูดปุ๋ยมากขึ้นเมื่อผักดูดปุ๋ยมากขึ้น ผักก็จะปล่อยด่างมากขึ้นทำให้เราต้องใช้กรดในการปรับ pH มากขึ้น การปรับ pH ก็ทำได้ง่ายขึ้น
เพราะหน้าหนาวรากผักสามารถทน pH ต่ำได้โดยไม่ทำให้รากเสียหรือเน่าเหมือนกับช่วงอากาศร้อน
ถ้าเราใช้ปุ๋ยที่มีแอมโมเนียมปลูกผักในหน้าหนาว เราจะใช้กรดน้อยลง และการเจริญเติบโตของผักจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าการปลูกผัก
โดยใช้ปุ๋ยที่ไม่มีแอมโมเนียม (ปุ๋ยที่มีแอมโมเนียมจะให้คุณ ถ้าอากาศเย็นและจะให้โทษเมื่ออากาศร้อน