สวัสดีค่ะ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย
เพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ เป็นแนวทางที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง และ ยั่งยืนภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของโลก
โดยผู้ใช้เฟสบุค คุณ Noah Ampol จากไร่ภูอาห์ ได้แชร์ภาพแนวทางการทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงมาให้ได้ชมกัน

ทางแอดมินจึงได้ขอนำเสมอภาพเหล่านี้พร้อมเล่าเรื่องประกอบ เพื่อให้ไว้เป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่สนใจ และ อยากมีวิถีชีวิตแบบนี้ให้ได้ชมกัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า.. เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่การอยู่แบบลำบากยากจน หรือ ต้องอดมื้อกินมื้อ พอเพียง หมายถึง อยู่แบบพอดี ไม่ใช่จ่าย ไม่สร้างหนี้เกินตัว
มีเท่าไรก็ใช้ให้พอประมาณเท่าที่มี เหลือเก็บ เหลือใช้ นำไปขาย ไปสร้างรายได้ ต่อยอดอนาคตได้อีกด้วย
การทำเกษตรแบบผสมผสานและใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาช่วย จะทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ขาขึ้น หรือ ขาลง เราก็ไม่เดือดร้อนมากนัก เพราะ เน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
การทำเกษตรแบบผสมผสานเป็นการปลูกพืชหลายๆชนิดรวมกัน ไม่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว แต่คนส่วนใหญ่ใจร้อน หวังแต่จะรวยเร็ว ก็แห่กันไปปลูกพืชที่ได้ราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด โค่นต้นไม้ชนิดอื่นออกหมด

เมื่อทุกคนคิดแบบนี้ ผลผลิตออกมาก็ล้นตลาด พอล้นตลาดขายไม่ได้ราคาก็ตก จะหันกลับไปปลูกพืชชนิดอื่นก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเติบโตพอให้เก็บเกี่ยวได้
แต่เกษตรผสมผสานนั้นไม่ใช่ เพราะเป็นการปลูกพืชหลายๆชนิดรวมกัน ต่อให้ราคาผลผลิตของพืชชนิดใดชนิดหนึ่งตก ก็ยังมีราคาผลผลิตของพืชชนิดอื่นเข้ามาช่วยประคองไว้
อย่างการเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนกัน อย่าปลูกพืชอย่างเดียว ให้เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ประกอบด้วย เพราะ ทั้งพืชและสัตว์นั้นต่างพึ่งพาอาศัยกัน
ไก่คุ้ยเขี่ยหากินเศษเมล็ดพืชตามพื้นดิน กินเสร็จก็ถ่ายออกมา เป็นปุ๋ยลงไปในดินให้พืชได้รับปุ๋ยอีกที แบบนี้เกษตรกรสมัยก่อนเขาถึงไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมี เพราะ เลี้ยงปล่อยแบบธรรมชาติ
แต่ก็อย่างว่า เดี๋ยวนี้เราใจร้อนกัน อยากได้ผลผลิตเร็วๆ อีกทั้งขี้เกียจกันมากขึ้น ไม่อยากทำหลายๆอย่าง ไม่อยากเหนื่อยหลายงาน จึงปลูกอย่างเดียว เลี้ยงอย่างเดียว

เวลาเศรษกิจปกติดีมันก็พอหมุนเงินประคับประคองตัวเองให้ไปได้อยู่ แต่พอเกิดวิกฤติขึ้นมามันจะเห็นผลได้ชัดว่าแบบไหนยั่งยืนกว่ากัน
แนวพระราชดำริในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง
1.ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการใช้ชีวิต
2.ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต
3.เลิกการแก่งแย่ง ผลประโยชน์ และแข่งขันกันในทางการค้า
4.ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยการขวนขวายใฝ่หาความรู้ ให้มีรายได้เพิ่มพูนขึ้น จนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ
5.ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี

ขอบคุณที่มา บ้านไร่ภูอาห์