คนจีนได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่ค้าขายเก่งมาก
มีตัวอย่างคนจีนมากมายที่ประสบความสำเร็จ
ทั้งในและนอกประเทศ ไม่ต้องคิดไปอื่นไกล
แจ๊คหม่า คือตัวอย่างที่ชัดเจนสุด
นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจที่น่าสนใจระบุว่า
มีคนจีนกว่า 3 ล้านคนที่มีสินทรัพย์เกิน 30 ล้านบาท,
ในจำนวนนี้ประมาณ 1 ล้านคน มีสินทรัพย์เกิน 50 ล้านบาท
โดยคนเหล่านี้อยู่ในวัย 40-50 ปี
ในเมืองไทยเองก็มีคนไทยเชื้อสายจีน
ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอยู่จำนวนมาก
เช่น คุณธนินท์ เจียรวนนท์ (แซ่เจี๋ย),
คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี (แซ่โซว), ตระกูลจิราธิวัฒน์ (แซ่เจ็ง) เป็นต้น
เชื่อว่าคนไทยแท้ ๆ ทั้งหลาย คงคิดคล้ายกันว่าทำไม
คนเหล่านี้ถึงได้เก่ง ทำธุรกิจร่ำรวย ที่สำคัญรวยแบบต่อเนื่อง
รวยไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ในขณะที่ไทยแท้ ๆ อยู่บนแผ่นดินนี้มานานกว่า
ยังไม่สามารถทำได้ขนาดนั้น แต่ถ้าได้รู้เหตุผลที่แท้จริง
คนไทยก็จะมี 2 จำพวก คือ เห็นแล้วเกิดแรงบันดาลใจอย ากทำตาม
กับอีกพวกที่รู้แล้วแต่ไม่สนใจ ยังคงทำตามใจตัวเองเหมือนเดิม
1คนจีนรักษาสัจจะเยี่ยงชีวิต
ไม่ว่าจะทำกิจการงานอะไร คนจีนจะมีนิสัยหนึ่งที่ถือเป็น
เครื่องหมายการค้าเลยทีเดียว นั่นก็คือสัจจะในการทำงาน
หรือการดำรงชีวิต ซึ่งการรักษาคำพูด พูดคำไหนคำนั้น
ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ และทำให้ได้รับโอกาสดี ๆ
ในชีวิต ที่ทำให้พวกเขาร่ำรวย
2ยึดมั่นในเรื่องการค้าขาย
คนเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ มีรากฐานอาชีพค้าขายหรือทำธุรกิจส่วนตัว
ไม่ใช่รับราชการ หรือเป็นลูกจ้างประจำ
เราจะเห็นได้ว่าเมื่อคนจีนอพยพ
หรือย้ายถิ่นฐานเข้ามาในประเทศใดก็ตาม
มักจะเอาความรู้เดิมที่ติดตัวมา เป็นจุดเริ่มต้นของการค้าขาย
ด้วยคนจีนเชื่อว่าการค้าขายคือการลงทุนที่ดีที่สุด
3ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ
คนจีนถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจในหลาย ๆ อุตสาหกรรม
โดยมีคติว่า “ทำธุรกิจ ต้องทำเป็นคนแรก
อย่าไปแข่งกับคนที่เขาทำอยู่แล้ว” ความขยันในการคิด
และค้นหาสินค้ามาขายก่อนใคร ๆ ถือเป็นกลยุทธ์การค้า
ที่สร้างให้พวกเขามั่งคั่ง และกลายเป็นเจ้าตลาดมากมาย
4ขยัน ประหยัด อดทน เหมือนมดงาน
ความร่ำรวยของคนจีนนั้น พื้นฐานสำคัญมาจากการมีนิสัยขยัน
พร้อมจะทำงานและพัฒนาตัวเองทุกอย่างเท่าที่ทำได้
อีกทั้งยังใช้ชีวิตแบบสมถะ ประหยัด อดออม
จึงทำให้มีเงินก้อนเร็วในการเริ่มทำธุรกิจ
และยังเป็นนิสัยติดตัวไปตลอด ถึงแม้จะร่ำรวยมหาศาลแล้วก็ตาม
5คนจีนสอนลูกหลาน ให้รู้จักเก็บเงินไว้เป็นทุนทำธุรกิจ
เคล็ดลับความสำเร็จที่ธุรกิจคนจีนขย ายใหญ่โต
เพรา ะเขาจะสอนลูกหลานว่าเมื่อมีเงินอย่าไปใช้ฟุ่มเฟือย
ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้ และต้องมีส่วนที่เก็บไว้ขย ายธุรกิจด้วย
การขย ายธุรกิจแบบจีนใช่จะโตแบบพรวดพราด
แต่เขาจะค่อย ๆ ขย าย จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม
บางทีหากไม่แน่ใจ ก็จะยังไม่ลงทุนขย าย
6รู้จักต่อยอดและเปลี่ยนแปลง
เป็นเรื่องธรรมดาของการค้า ที่จะต้องเจอคู่แข่งมากมาย
แต่ชาวจีนไม่ได้มองเช่นนั้น ในทุกพื้นที่ย่อมมีโอกาสธุรกิจของตัวเอง
อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นก่อนกัน
อย่าง CP ที่ดึงเอา 7-11 มาลงทุนในประเทศไทย
เปลี่ยนแปลงวงการค้าปลีกเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง
นั่นคือหนึ่งในการต่อยอดและเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด
7ไม่จำเป็นอย่ามีหนี้สูญ
เราจะเห็นตามร้านค้าปลีก ที่มักมีภาพล้อเลียนระหว่างพ่อค้าเงินสด
กับพ่อค้าเงินเชื่อ เหมือนคำแบบไทย ๆ
ที่คุ้นเคยกันดีว่าจ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง นั้นคือลักษณะของการค้าแบบจีน
ที่ไม่ต้องการให้เกิดหนี้สูญ ส่วนใหญ่มักใช้ระบบเงินสดไม่ใช่เงินเชื่อ
หรือเงินผ่อน คนจีนเชื่อว่าการเป็นเจ้าหนี้
ทำให้เสียเวลาในการทำธุรกิจมากกว่าเดิม
และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ
8ขย ายกิจการให้เติบโตไปทีละน้อย ๆ
คนจีนมักขย ายกิจการตัวเองไปทีละนิดละหน่อย
ไม่เน้นเร่งรัด รวดเร็ว เพื่อป้องกันความผิดพลาด
บางครั้งการขย ายที่รวดเร็วเกินไป อาจเป็นการทำให้เงินทุนไป
จมอยู่กับที่แบบไม่งอกเงย เหมือนทำลายตัวเองมากกว่าที่จะเรียกว่าเติบโต
9เทคนิคซื้อเมื่ออิ่ม ขายเมื่อหิว
คนจีนส่วนใหญ่มักมีหัวธุรกิจที่ไม่ใช่แค่หัวพ่อค้า
คือรู้จักมองการณ์ไกล และไขว่คว้าโอกาสทองที่เหมาะสม
แบบไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ เราจะเห็นว่าคนจีนมักคิดโน่นทำนี่ ออกมาขาย
ซึ่งในช่วงแรก ๆ อาจขายไม่ได้เลย แต่ก็ไม่เคยเป็นปัญหา
เพรา ะเขาถือว่าอะไรที่เริ่มต้นมักย ากเสมอ
คนจีนจะรู้จักประเมินจากปัจจัยแวดล้อม
ว่าธุรกิจไหนควรทำหรือไม่ควรทำในพื้นที่นั้น ๆ
10คนจีนรู้จักกระจายความเสี่ยง
เราจะเห็นว่าคนจีนที่เป็นนักธุรกิจไม่ได้เอาเงินไปกระจุกไว้ที่เดียว
หากแต่มีการกระจายความเสี่ยงไปสู่การลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ
เช่น อสังหาริมทรัพย์ หุ้นส่วนในกิจการอื่น
รวมถึงการลงทุนหรือขย ายกิจการในต่างประเทศ
อันเป็นการกระจายความเสี่ยง
หากเกิดปัญหากับธุรกิจหลัก
ก็ยังมีรายได้จากทางอื่นหลงเหลืออยู่
จุดเด่นของคนจีนที่ทำให้ร่ำรวยคือ
คิดแล้วทำ” “ทำแล้วตั้งใจ ขย ายธุรกิจอย่างเป็นระบบ
ซึ่งคนไทยหลายคนก็มีไอเดียธุรกิจที่ดี แต่ส่วนใหญ่มักไม่ลงมือทำ
ด้วยความกลัวต่าง ๆ นานา เช่น กลัวขา ดทุน
กลัวไม่มีคนซื้อ กลัวเป็นหนี้ ซึ่งความกลัวนี้ทำให้เราไม่กล้า
ที่จะก้าวออกจากโลกแคบ ๆ ที่เราอยู่
คนรวยคือคนที่กล้าทำ ยิ่งรู้จักบริหารจัดการ
ก็ยิ่งทำให้รวยเร็ว รวยทน รวยนาน
สิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ จงอย่าทำกับคนอื่น
แจ๊คหม่า คือตัวอย่างที่ชัดเจนสุดที่เราจะเห็นได้ในปัจจุบันนี้
ที่มา : thaismescenter