ฟังแล้วอาจจะขัดหู เพราะในความเป็นจริง มีการซื้อข ายที่ดิน สปก เป็นจำนวนม าก แต่ห ารู้ไม่ว่า การซื้อข ายดังกล่าว มันก็มีปัญห าเหมือนกัน ยิ่งช่วงนี้รัฐบ าลเค้าเคร่งอยู่ในเรื่องที่ดิน สปก. ถ้าไม่ทะเลาะกันก้ไม่มีปัญห าหรอก แต่ถ้าผิ ดใจกันถึงขั้นฟ้อ งร้ องเมื่อไร แพ้ชนะคดี ก็วัดกันตรงนี้แหละ ที่ดิน ส.ป.ก. เค้าห้ ามซื้อข ายกัน ห ากมีการซื้อข ายถือว่าสัญญานั้นมีวัตถุประสงค์ต้องห้ าม และสัญญานั้นมันต กเป็นโมฆ ะ แปลว่า ไม่เคยมีการซื้อข ายกันม าก่อนเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสัญญาต กเป้นโมฆ ะ และห ากมีการจ่ายเงินค่าที่ดินกันแล้ว ผู้ซื้อจะเรียกเงินคืนไม่ได้อีกด้วย ระวังกันหน่อย (ฎ1876/2542) ดังนั้น ใครจะซื้อข ายที่ดิน สปก คิดดีๆ นะ ควรปรึกษานักกฎหม ายก่อนดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของท่านเอง
ประมวลกฎหม ายแพ่งละพาณิชย์ ม าตรา 150 การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ ามชัดแจ้งโดย กฎหม าย การนั้นเป็นโมฆ ะ ม าตรา 411 บุคคลใดได้กระทำการเพื่อชำระหนี้เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ ามตามกฎหม ายหรือศีลธร รมอันดีท่านว่าบุคคลนั้นห าอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รม พ.ศ.2518 ม าตรา 39 ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รมจะทำการแบ่ งแย ก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการต กทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธร รม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รม
ผู้ที่ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรก รรม มีหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบคณะกร รมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รมว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535 (ระเบียบเข้าทำประโยชน์) โดยข้อ 7 ของระเบียบดังกล่าวกำหนดให้เกษตรกรต้องทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับด้วยตนเอง และห้ ามแบ่ งแย กหรือโอนสิทธิไปยังบุคคลอื่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีซื้อข าย
ยกที่ดินที่ได้รับให้บุคคลอื่น หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ซึ่งศาลฎีกาเคยวินิจฉัยว่า การส่งมอบที่ดินให้บุคคลอื่นครอบครอง และยังส่งมอบเอกสารส.ป.ก.4-01 ให้บุคคลอื่นยึดถือไว้ตลอดมาพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์สละสิทธิทำกินในที่ดินพิพาทและโอนสิทธิทำกินให้บุคคลอื่นแล้ว (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5211/2560)
การกระทำการที่ฝ่าฝืนข้อห้ ามดังกล่าวเป็นเหตุให้เกษตรกรสิ้นสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามข้อ 11 ของระเบียบเข้าทำประโยชน์ อันการเสี ยสิทธิเข้าทำกินในที่ดิน และต้องออกจากที่ดินที่ได้รับอนุญาต ห ากไม่ยินยอมออกถือเป็นการทำผิ ดฐานบุ กรุ กตามประมวลกฎหม ายอ าญ าม าตรา 362 ต้องโท ษจำคุnไม่เกินหนึ่งปี หรือปรั บไม่เกินสองพันบ าท หรือทั้งจำทั้งปรั บ
อีกทั้ง ที่ดินส.ป.ก. ถือเป็นที่ดินของรัฐซึ่งตามประมวลกฎหม ายที่ดินม าตรา 9 ห้ ามมิให้บุคคลใดที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปยึดถือหรือครอบครอง ซึ่งเกษตรกรผู้สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. แล้ว แต่ไม่ยอมออกจากที่ดินถือเป็นผู้ที่เข้าไปยึดถือหรือครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องโท ษจำคุnไม่เกินหนึ่งปีหรือปรั บไม่เกินห้าพันบ าทหรือทั้งจำทั้งปรั บ ทั้งนี้ ตามม าตรา 108 ทวิ แห่งประมวลกฎหม ายที่ดินอีกด้วย
ผู้ซื้อเสี ยเงินฟรีโดยไม่อาจได้รับสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.
ในส่วนผู้ซื้อที่ดินนั้น เมื่อที่ดินส.ป.ก.ต้องห้ ามมิให้โอน ซื้อข ายเปลี่ยนมือการทำสัญญาซื้อข ายหรือสัญญาอื่นใดในลักษณะที่มีพฤติการณ์ให้มีผลเป็นการโอนหรือซื้อข ายที่ดิน ส.ป.ก. ถือเป็นการทำนิติกร รมที่ขั ดกฎหม ายและต กเป็นโมฆ ะตาม ม าตรา 150 แห่งประมวลกฎหม ายแพ่งและพาณิชย์ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๖๖๙/๒๕๔๖ และ ๑๘๗๖/๒๕๔๖) ความเป็นโม ฆ ะของสัญญาดังกล่าวมีผลให้ความผูกพันตามสัญญาของคู่สัญญาเสี ยเปล่าไปด้วย
ผู้ซื้อที่ดิน ส.ป.ก. จึงไม่ได้รับสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว และเมื่อการซื้อที่ดิน ส.ป.ก.เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหม าย จึงถือไม่ได้ว่าผู้ซื้อได้เข้าครอบครองที่ดินของส.ป.ก. โดยสุจริต จะทำให้เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก. ได้ ผู้ซื้อหรือผู้รับโอนที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบด้วยกฎหม ายจึงไม่อาจได้รับสิทธิให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ส.ป.ก. ได้
นอกจากนี้ กฎหม ายยังถือว่าการที่ผู้ซื้อที่ดินได้ชำร ะเงินค่าที่ดินส.ป.ก.ทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ดินซึ่งต้องห้ ามซื้อข ายเปลี่ยนมือ เป็นการฝ่ าฝื นข้อห้ ามตามกฎหม าย ซึ่งตามประมวลกฎหม ายแพ่งและพาณิชย์ม าตรา 411ผู้ซื้อไม่อาจเรียกคืนเงินที่ชำร ะไปได้ ดังนี้ จึงพอสรุปได้ว่าผู้ซื้อที่ดินส.ป.ก. นอกจากจะไม่ได้รับสิทธิใดๆ จากการซื้อที่ดินส.ป.ก. แล้ว ยังต้องเสี ยเงินจากการซื้อที่ดินโดยไม่อาจเรียกคืนจากผู้ข ายได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ซื้อที่ดินส.ป.ก. ไม่มีสิทธิตามกฎหม ายที่จะเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินและต้องออกจากที่ดิน ส.ป.ก. กรณีไม่ยอมออกจากแปลงที่ดินถือว่าผู้ซื้ออยู่ในที่ดินโดยไม่มีสิทธิ และเป็นการทำผิ ดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหม ายอาญาม าตรา 362 ต้องโท ษจำคุnไม่เกินหนึ่งปี หรือปรั บไม่เกินสองพันบ าท หรือทั้งจำทั้งปรั บ
จึงอาจกล่าวโดยสรุปว่า การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม แก้ปัญห าผู้ไร้ที่ดินทำกิน โดยมีม าตรการป้องกันมิให้ที่ดินต กอยู่ในมือบุคคลที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกร รมและเกษตรกรกลายเป็นผู้เช่าที่ดินหรือผู้ไร้ที่ดินทำกิน ดังนั้น การซื้อข ายที่ดิน ส.ป.ก. จึงเป็นการกระทำขั ดวัตถุประสงค์ของกฎหม าย มีโท ษตามกฎหม าย “ผู้ข ายเสี ยสิทธิ ผู้ซื้อเสี ยเงินฟรี ทั้งคู่อาจต้องรับโท ษจำคุn
ขอบคุณข้อมูลสำนักกฎหม าย ส.ป.ก. (1)ดร.ไชยยงค์ ชูชาติ ขอเสนอโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อกระจายความมั่งคั่งไปสู่เกษตรกรไทยผู้ย ากจ น (เอกสารปฏิรูปที่ดินฉบับที่ ๘, ๒๕๑๘) (2)สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร รม, ความเป็นม าของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย มีนาคม ๒๕๕๔ หน้า ๒๙-๓๐
ฟังแล้วอาจจะขั ดหู เพราะในความเป็นจริง มีการซื้อข ายที่ดิน สปก เป็นจำนวนม าก แต่ห ารู้ไม่ว่า การซื้อข ายดังกล่าว มันก็มีปัญห าไม่น้อย
ขอบคุณข้อมูล:ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธร รม เพจ สายตรงกฎหม าย ยึดมั่นความยุติธร รม โทร 0957563521
เรียบเรียงโดย 1ไร่ไม่ จ น