ข่าวทั่วไป

ทนาย โต้ บุกยึดบ้าน ยันครอบครองปรปักษ์ถูกต้อง ท้า เจ้าของบ้านตัวจริง

ทนาย โต้ บุกยึดบ้าน ยันครอบครองปรปักษ์ถูกต้อง ท้า เจ้าของบ้านตัวจริง

ทนาย โต้ บุกยึดบ้าน ยัน มีหลักฐานอยู่ครบ 10 ปี ครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายได้ ท้า เจ้าของบ้านตัวจริงแสดงตัว ลั่น ไม่เคยสละสิทธิ์เข้าอยู่ แค่ออกมาหลบนักข่าว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ซอยรามอินทรา 58 ซึ่งเป็นบ้านที่มีการร้องเรียนว่า ถูกเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม สวมรอยเข้าไปรีโนเวทและอ้างกรรมสิทธิ์เป็นของตัวเอง เนื่องจากเจ้าของบ้านตัวจริงไม่ได้เข้ามาอยู่อาศัยนานหลายสิบปี กลับโดนยึดบ้านและเปิดเป็นร้านขายอาหาร อ้างครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายแล้ว

ล่าสุด นายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของ คุณศรีพรรณ คนที่บุกรุกบ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ยืนยันว่าลูกความของตน คุณศรีพรรณ เข้ามาครอบครองเกิน 10 ปีแล้ว และขณะนั้นได้ยื่นปรปักษ์อยู่ แต่พอเป็นประเด็นขึ้นมาแล้วมีการออกข่าวใหญ่โตในช่วงเเรกนั้นเขาเจอนักข่าว และหลาย ๆ ส่วนกดดันจึงต้องย้ายออกไปก่อน ไม่ได้ยอมความหรือยิมยอมจะย้ายออก หรือสละการครอบครองตามที่คู่กรณีเข้าใจและเป็นข่าวแต่อย่างใด

ทนายคู่กรณี บุกรุกบ้าน ยัน มีหลักฐานอยู่ครบ 10 ปี ครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายได้

ทนายคู่กรณี บุกรุกบ้าน ยัน มีหลักฐานอยู่ครบ 10 ปี ครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายได้

นายวัฒนา กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ว่าศาลยังไม่ได้ตัดสินแล้วสามามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้อย่างไร ทำไมถึงกล้าเข้ามาอยู่ ต้องบอกว่าเขาติดป้ายไว้ก่อนอยู่แล้ว ซึ่งคดีอยู่ที่ศาลแล้ว จึงเข้าไปใช้สิทธิได้ในการครอบครองโดยปรปักษ์ตามกฎหมายเพราะเข้าอยู่มาครบ 10 ปีแล้ว

  • อ่านข่าว : สุดมึน ซื้อบ้านทิ้งไว้ งงถูกสาวปริศนาเข้ามาอยู่ ต่อเติมทำเป็นออฟฟิศ ทนายดังชี้ชัด

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ซึ่งเคยไกล่เกลี่ยในการซื้อขายบ้าน ทางคู่กรณีก็บอกว่าจะเอา 5 ล้านบาท แต่ไหวแค่ 2 ล้านบาท ตนมองว่าบ้านไม่น่าจะถึง 2 ล้านบาทด้วยซ้ำ แค่ล้านต้น ๆ

นายวัฒนา กล่าวด้วยว่า โดยบ้านหลังนี้ทิ้งร้างมา 30 กว่าปีแล้วที่ไม่มีเจ้าของ ซึ่งตัวตนจริง ๆ ของเจ้าของบ้านหลังนี้มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ และคนที่ไปออกรายการเป็นตัวจริงหรือไม่ หรือหลบอยู่ที่ไหนทำไมไม่ออกมาแสดงตัวตน

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ตนก็จะตรวจสอบกลับไปว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หรือว่าหายสาบสูญ ซึ่งถ้าจะออกมาโอนช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นการโอนที่ไม่สุจริต ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อยากให้เขาปรากฏตัวแทนหลานเหล่านี้ที่ออกมาโทษคนนู้นคนนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาด

นายวัฒนา กล่าวว่า อยากให้เจ้าของตัวจริงออกมาจะได้ออกมาพูดกันอย่างสันติ ถ้าไม่ใช่ตัวจริงแล้วมอบอำนาจก็ถือว่ามีมีความผิดปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งชาวบ้านแถวนี้ และหลาย ๆ คนก็พูดกันว่า ไม่เคยเห็นเจ้าของมานาน 20-30 ปี ถ้าเขาจะโอนบ้านให้หลานจริง ๆ ทำไมไม่ไปโอนที่สำนักงานที่ดินเลย

  • อ่านข่าว : โผล่ยึดบ้านอีกรอบ! สุดงงอ้างครอบครองปรปักษ์ หวั่นเกิดบรรทัดฐานใหม่ คนแห่ยึดบ้านร้าง

นายวัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าคู่กรณีมีหลักฐานว่าเขาอยู่ไม่ถึง 10 ปี ก็สู้กัน เอาหลักฐานออกมาสู้ ไปในกระบวนการของศาล และทางฝั่งของตนก็มีหลักฐานว่าอยู่เกิน 10 ปีถึงกล้ายื่นคำร้องต่อศาลและเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ไม่ได้วิตกว่าจะแพ้หรือชนะ แต่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ได้จะไปรังแกใครเหมือนที่คู่กรณีทำ

ทนายความ กล่าวต่อว่า ซึ่งถึงคดีจะถึงศาลแล้วแต่ก็ยังพูดคุยกันได้ แต่ว่าทางคู่กรณีมาเล่นงานไปฟ้องคนที่อยู่บ้านหลังนี้ให้ตกเป็นผู้ต้องหา พยายามไปแจ้งความไปบอกนักข่าว ตอนนี้สังคมมีแต่โทษและด่าทนาย หาว่าทนายแนะนำแบบนี้ แต่ตนฟังและเข้าใจเพราะว่าเขาไม่เข้าใจข้อเท็จจริงมากพอตนก็ให้อภัย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น แต่เลี่ยงไม่ตอบคำถามใด ๆ และบอกเพียงแต่ว่าไม่เคยเห็นเจ้าของบ้าน และไม่รู้เรื่องคดีนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *