ข่าวทั่วไป

ชงอายัดทรัพย์ ศรีสุวรรณ เปิดของสะสมกว่า 100 รายการ บ้าน 5-6หลัง

ชงอายัดทรัพย์ ศรีสุวรรณ เปิดของสะสมกว่า 100 รายการ บ้าน 5-6หลัง

ปปป. ชง ปปง. อายัดทรัพย์ ศรีสุวรรณ กว่า 100 รายการ ด้าน ผอ.กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว โร่พบตำรวจ ยัน ไม่ได้นำข้อมูลให้ แก๊งตบทรัพย์

วันที่ 12 ก.พ.2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และคณะพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ในประเด็นต่าง ๆ ตามที่ได้สั่งการไปแล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ที่ประชุมพูดคุยถึงแนวทางการสืบสวนขยายผลไปยังมิติต่าง ๆ ส่วนกรณีข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเข้ามาเพื่อชี้แจงกรณีว่านำเอาข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตภายในกรมการข้าวไปส่งต่อให้นายเอก หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหานำไปใช้ในขบวนการตบทรัพย์นั้น ก็จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับตนเองในวันนี้ แต่เป็นการพูดคุยส่วนตัว ยังไม่ได้เป็นการสอบปากคำ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนเจ้าหน้าที่คณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดเดียวกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋งดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน เดิมจะเข้ามาให้ข้อมูลในวันนี้ แต่ก็แจ้งมาว่าจะขอเข้ามาให้ข้อมูลในวันที่ 13 ก.พ.นี้

  • อ่านข่าว : ศรีสุวรรณ ชี้โยนเงินทิ้ง เหตุไม่รู้ใครนำมาแขวนไว้ เมื่อเห็นน่าสงสัยจึงปัดทิ้ง
  • อ่านข่าว : ทนายอธิบดีกรมข้าวแฉ นักการเมือง ป. หนุน ศรีสุวรรณ รีดเงิน โทรหาบอกเบาๆ หน่อย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่จะต้องสอบคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 นั้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่หลายคนก็จะตั้งประเด็นสอบแบบแยกกลุ่ม พร้อมจะเรียกขอดูเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางราชการ ซึ่งเป็นเอกสารรายละเอียดคำสั่ง และเอกสารที่เกี่ยวข้อง หากไม่นำมาให้ครบถ้วนก็คงออกหมายเรียกเอกสารมาอีกครั้งหนึ่ง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ว่า กำลังดำเนินการให้เกิดความชัดเจน และเตรียมเสนอ ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ตามความผิดมูลฐานคดีฟอกเงิน เนื่องจากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่า มีทรัพย์สินหลายรายการที่กลุ่มผู้ต้องหาได้มาอย่างไม่ถูกต้อง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะในรายของ นายศรีสุวรรณ จรรยา ที่พบว่ามีทรัพย์สินจำนวนมาก เฉพาะแค่บ้านพักนั้นมีอยู่ถึง 5-6 หลัง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่ำ 15 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโฉนดที่ดิน และของสะสมต่าง ๆ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า เช่น พระเครื่อง, งาช้าง, เขาสัตว์, เฟอร์นิเจอร์เก่า และครุฑที่มีมูลค่านับ 100 รายการ ซึ่งขบวนการยึดทรัพย์จะเริ่มเมื่อไรนั้น กำลังเร่งดำเนินการเพราะได้มีการคุยประสานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้งานเดินเร็วที่สุดด้วย

“เราต้องการให้นักร้องพวกนี้เข็ดหลาบ ไม่ใช่เฉพาะนักร้องกลุ่มนี้ แต่ยังมีนักร้องที่ยังเดินอยู่บนสภา และนักร้องที่อาละวาดอยู่ในต่างจังหวัด ที่ชอบมาตีเงินข้าราชการ เอาประชาชนเป็นเหยื่อล่อ พวกนี้จะต้องจัดการให้หมด เพราะถือเป็นกลุ่มแก๊งอุบาทว์ แต่ชอบแสดงความรักชาติรักแผ่นดิน มีอะไรที่หลบ ๆ ไว้เยอะ” รองผบช. กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้กำลังเร่งทำสำนวนกลุ่มผู้เสียหายวงแรก เพื่อให้เป็นแผนประทุษกรรม ก่อนขยายไปยังวงอื่น ๆ ที่น่าจะมีกว่า 10 กลุ่ม ส่วนในวงที่ 2 อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยาน และยังมีผู้ประสงค์จะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ส่วนการออกหมายเรียกคนใกล้ชิดของนายศรีสุวรรณให้มารับทราบข้อกล่าวหานั้น มีการติดต่อมายืนยันแล้วว่าจะมาตามกำหนดนัดหมายคือวันที่ 15 ก.พ.นี้ ส่วน นายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีข้อมูลเกี่ยวโยงกับการตบทรัพย์ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็น่าจะเดินทางมาให้ข้อมูลในวันที่ 20 ก.พ.นี้เช่นกัน

วันเดียวกัน นายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

นายโอวาท กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นเอกสารเพื่อชี้แจงกับพนักสอบสวน ตามหลักฐานเป็นเอกสารแชทไลน์ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการของนายศรีสุวรรณใด ๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่ได้นำข้อมูลไปให้แก๊งตบทรัพย์แต่อย่างใด

นายโอวาท กล่าวต่อว่า ที่ตนไปรู้จักกับนายเอกลักษณ์ วารีชล หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ก็เพราะเคยเรียนสถาบันเดียวกันมาก่อน แต่ไม่ใช่รุ่นเดียวกัน โดยมีหลักฐานการพูดคุยส่วนตัวกับนายเอกลักษณ์ที่มอบให้ตำรวจไปแล้ว เป็นการพูดคุยเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ข้อมูลของกระทรวงเกษตรฯ

นายโอวาท กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งวันที่จับกุมนายศรีสุวรรณ ตนยังถามนายเอกลักษณ์ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ นายเอกลักษณ์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ตนยังเตือนไปว่าอย่าเข้าไปยุ่ง และก็ห้ามนำชื่อของตนไปแอบอ้างด้วย

นายโอวาท กล่าวต่อถึงกรณีที่ถูกกล่าวหา จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ว่า คงต้องขอดูก่อน หากมีการนำข้อความที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และทำให้ตนเสียหาย ก็จะหารือกับนักกฎหมายอีกครั้ง เพราะส่วนตัวก็ไม่อยากมีปัญหากับใคร

“หลังถูกพาดพิงทำให้ผมรู้สึกกังวลมาก แต่ขณะนั้นยังติดอบรมอยู่ที่ต่างประเทศ เมื่อกลับมาแล้วจึงรีบเข้ามาชี้แจงทันที หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น เพราะไม่รู้เบื้องหลังว่าใครเขาทำอะไรบ้าง ส่วนตัวแล้วอาจจะรู้จักกันจริง แต่ไม่ได้รู้จักการทำงานของเขา” นายโอวาท กล่าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *